กิฟฟารีน
อาณาจักรธุรกิจเครือข่ายไทยที่เติบโตด้วยหัวใจและคุณภาพ
กิฟฟารีน (Giffarine) คือชื่อที่คนไทยคุ้นเคยในฐานะบริษัทขายตรงที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายครอบคลุมทุกด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ ความงาม อาหารเสริม ของใช้ในบ้าน ไปจนถึงสินค้าเกษตร ด้วยแนวคิด “คุณภาพชีวิตที่ดีเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ” กิฟฟารีนจึงไม่ใช่แค่แบรนด์สินค้า แต่เป็นระบบนิเวศธุรกิจที่สร้างโอกาสให้คนไทยนับแสนคนมีรายได้และชีวิตที่มั่นคง
จุดเริ่มต้นของกิฟฟารีน
กิฟฟารีนก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2539 โดย พญ.นลินี ไพบูลย์ แพทย์ผู้มีความฝันอยากยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยผ่านผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูง จากการเริ่มต้นคลินิกเล็กๆ สู่การผลิตครีมบำรุงผิวด้วยตัวเอง จนกระทั่งเข้าสู่ธุรกิจขายตรงอย่างเต็มตัว ความตั้งใจของคุณหมอนลินีคือการสร้างแบรนด์ที่คนไทยไว้วางใจได้ และเป็นพื้นที่ให้คนธรรมดาสามารถเติบโตเป็นนักธุรกิจได้จริง
วิสัยทัศน์และพันธกิจ
วิสัยทัศน์ : เป็นผู้นำธุรกิจเครือข่ายที่ยั่งยืนด้วยคุณภาพสินค้าและความรับผิดชอบต่อสังคม
พันธกิจ
- ผลิตสินค้าที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และราคายุติธรรม
- สร้างโอกาสทางธุรกิจให้คนไทยทุกระดับ
- ส่งเสริมสุขภาพและความงามอย่างยั่งยืน
- ขยายตลาดสู่ระดับสากล
โรงงานและการผลิต
กิฟฟารีนมีโรงงานผลิตของตนเองที่ได้รับมาตรฐาน GMP และ ISO ซึ่งครอบคลุมการผลิตเครื่องสำอาง อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคทุกชนิด จุดเด่นคือการควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การวิจัยและพัฒนา ไปจนถึงการบรรจุและจัดจำหน่าย
ผลิตภัณฑ์ของกิฟฟารีน
กิฟฟารีนมีสินค้ากว่า 2,000 รายการ แบ่งออกเป็นหมวดหมู่หลักดังนี้

ผลิตภัณฑ์สุขภาพ
วิตามินและอาหารเสริม เช่น ไบโอซี 1000, แมกนีเซียม พลัส, กลูตา โกลว์ คอมเพล็กซ์ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เช่น ไพล เฮอร์เบิล ออยล์

ผลิตภัณฑ์ความงาม
เครื่องสำอาง เช่น ลิปสติก อินโนเวีย แมท แอนด์ ชายนี่
สกินแคร์ เช่น แอดวานซ์ รีแพร์ เซรั่ม, กลูตา พิงก์ โลชั่น

ผลิตภัณฑ์อาหาร
ฟิตต์ มีล อาหารเสริมควบคุมน้ำหนัก ขนมเพื่อสุขภาพ เช่น ป๊อปคอร์น หม่าล่า, เมล็ดฟักทองอบ

ผลิตภัณฑ์ในบ้าน
น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน
เครื่องกรองน้ำ อัลตร้า เพียว ยูวี พลัส
โมเดลธุรกิจ: การตลาดเครือข่าย
กิฟฟารีนใช้ระบบการตลาดแบบเครือข่าย (Network Marketing) โดยมีแผนการจ่ายผลตอบแทนแบบ Stair Step + Unilevel ซึ่งเปิดโอกาสให้สมาชิกสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าและการสร้างทีมธุรกิจ จุดเด่นคือ:
- ไม่มีค่าสมัคร
- ไม่บังคับซื้อ
- มีระบบฝึกอบรมและสนับสนุน
- รายได้ไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับความขยันและความสามารถ
การขยายตลาดสู่ต่างประเทศ
กิฟฟารีนได้ขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ เช่น ลาว พม่า กัมพูชา มาเลเซีย และประเทศในยุโรปและอเมริกา โดยมีการให้ใบอนุญาตธุรกิจแก่ผู้สนใจลงทุนในต่างประเทศ และส่งออกสินค้ากว่า 40 ประเทศทั่วโลก เช่น เกาหลี เยอรมนี สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น
ผู้นำหญิงผู้ทรงพลัง: พญ.นลินี ไพบูลย์
คุณหมอนลินีไม่ใช่แค่ผู้ก่อตั้ง แต่เป็นแรงบันดาลใจของนักธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนแต่เด็ดขาด เธอเป็นทั้งนักบริหาร นักพัฒนา และนักสร้างแรงบันดาลใจที่ผลักดันให้กิฟฟารีนเติบโตอย่างมั่นคงตลอด 27 ปี
การพัฒนาคนและการศึกษา
กิฟฟารีนมีระบบฝึกอบรมที่ครอบคลุมทุกระดับ ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นจนถึงผู้นำทีมธุรกิจ โดยมีหลักสูตรต่างๆ เช่น:
- การขายและการตลาด
- การสร้างทีมและภาวะผู้นำ
- การพัฒนาบุคลิกภาพ
- การใช้เทคโนโลยีในการทำธุรกิจ
บทบาททางสังคม
กิฟฟารีนมีโครงการเพื่อสังคมมากมาย เช่น:
- โครงการ “กิฟฟารีนเพื่อผู้สูงวัย”
- สนับสนุนทุนการศึกษา
- โครงการปลูกต้นไม้และรักษาสิ่งแวดล้อม
- การบริจาคผลิตภัณฑ์ให้โรงพยาบาลและผู้ประสบภัย
ผลประกอบการและความสำเร็จ
- ยอดขายรวมกว่า 68,000 ล้านบาท
- สมาชิกทั่วประเทศกว่า 1 ล้านคน
- ขึ้นแท่นบริษัทขายตรงอันดับต้นๆ ของไทย
- ได้รับการรับรองจากสมาคมการขายตรงไทย (TDSA) และสมาพันธ์การขายตรงโลก (WFDSA)
อนาคตของกิฟฟารีน
กิฟฟารีนมีแผนพัฒนาในหลายด้าน:
- ขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
- พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์และแอปพลิเคชัน
- ขยายตลาดสู่ประเทศใหม่ในอาเซียนและยุโรป
- ส่งเสริมการเป็นแบรนด์ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สรุป
กิฟฟารีนไม่ใช่แค่แบรนด์ขายตรง แต่เป็นสถาบันที่สร้างโอกาสให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและระบบธุรกิจที่ยั่งยืน ด้วยหัวใจของผู้ก่อตั้งที่เชื่อมั่นในความรับผิดชอบและความจริงใจ กิฟฟารีนจึงเป็นมากกว่าธุรกิจ—แต่เป็นแรงบันดาลใจของคนไทยทั้งประเทศ